มารู้จัก "ปลาตาหวาน" กันว่ามีความเป็นมายังไง?
ในบรรดาปลาทะเลที่ผมเคยเห็นมาทั้งหมด ปลาตาหวานเป็นหนึ่งในปลาที่ผมว่ากรมประมงไทยตั้งชื่อได้ตรงตัวและน่ารักที่สุดแม้ว่าบางถิ่นก็อาจจะเรียกเพี้ยนไปเป็นปลาตาโตหรือเป็นปลาตาพองบ้าง แต่ก็ดูไม่น่ารักเท่ากับปลาตาหวานด้วยดวงตาโตที่เป็นเอกลักษณ์ของมันทำให้การจำแนกสายพันธุ์ของปลาในกลุ่มนี้ดูเหมือนจะง่ายแต่ความจริงไม่ง่ายเลย
เพราะปลาตาหวานในบ้านเรามีรายงานพบอย่างน้อย ๓ ชนิด นั่นก็คือ Moontail Bullseye หรือ Priacanthus hamrur ที่มีสีแดงทั้งตัว แต่เรื่องสีสันอย่าไปจริงจังมากกับปลาในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะตัวที่ยังว่ายน้ำอยู่ ผมเคยไล่ถ่ายภาพเจ้าฝูงปลาชนิดนี้ที่ค่อยๆเปลี่ยนจากสีแดงสดกลายเป็นสีขาวภายในเวลาไม่ถึง ๒ นาทีมาแล้วบ่อยๆสิ่งสำคัญที่สุดก็คือลักษณะของปลายหางที่เว้าเข้ามาเป็นวงเดือนและไม่มีจุดแต้มใดๆบนลำตัว
ส่วนอีก ๒ ชนิดก็คือ Red Bigeye หรือ priacanthus macracanthus นั้นจะมีจุดสีเหลืองที่ครีบท้องและครีบก้นเมื่อกางออกมาเต็มที่(ซึ่งใครจะไปมองเห็นตอนที่มันวายน้ำอยู่เล่าครับ)ลักษณะเด๋นที่สุดของปลากชนิดนี้ที่เรามองเห็นได้จากภายนอกโดยไม่ต้องไปกางครีบมันดูก็คือลักษณะปลาที่หางตัด
ส่วนอีกสายพันธุ์หนึ่งก็คือ Purple-spotted Bigeye หรือ Priacanthus tayenus นั้นจะมีปลายหางที่เว้าลึกขอบหางด้านบนและด้านล่างแหลมมีจุดสีน้ำตาลเข้มที่ครีบท้อง
ปลาตาหวานเป็นปลาที่มักจะรวมฝูงลอยตัวนอนอยู่นิ่งๆในตอนกลางวัน ตามมุมมืดในซากเรือจมหรือกองหินกลางทะเลหรือแม้กระทั่งข้างชายเกาะในอดีตเรามักพบปลาตาหวานฝูงใหญ่ๆตามกองหินกลางกระแสน้ำอย่างหินแดงหรือหินม่วงอยู่เสมอ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าทำไมฝูงปลาตาหวานสีสดนี้ดูเหมือนจะค่อยๆเลือนหายไป ถ้าเจอก็มักจะเป็นฝูงเล็กๆเพียงไม่กี่ตัวเสียมากกว่า